การศึกษาวิจัยนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อจะศึกษาถึงแนวคิดเรื่องมิจฉาทิฎฐิที่ปรากฎ ในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท กรณีตัวอย่างบุคคลผู้เป็นมิจฉาทิฎฐิในสมัยพุทธกาล และแนวคิดมิจฉาทิฎฐิของพุทธศาสนิกชนไทยในสมัยปัจจุบัน ตลอดทั้งแนวทางแก้ไข การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงเอกสาร (Documentary Research) โดยผุ้วิจัยได้แบ่งการศึกษาออกเป็น ๕ บท และในแต่ละบทนั้น มีเนื้อหาหลัก ดังนี้ บทที่ ๑ บทนำ บทที่ ๒ ศึกษาแนวคิดเรื่องมิจฉาทิฎฐิ บทที่ ๓ ศึกษาวิเคราะห์กรณีตัวอย่างมิจฉาทิฎฐิในสมัยพุทธกาล บทที่ ๔ ศึกษาวิเคราะหืมิจฉาทิฎฐิของพุทธศาสนิกชนไทยในสมัยปัจจุบันในประเด็นความเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม เรื่อง โอปปาติกะ เรื่องสังสารวัฎและบทสัมภาษณ์นักวิชาการทางศาสนาในประเด็นดังกล่าว รวมทั้งแนวทางแก้ไข บทที่ ๕ สรุปผลของการวิจัยและข้อเสนอแนะ จากการวิจัยพบว่า ในกรรมบถ ๑๐ ทิฎฐิถูกจัดเข้าในฝ่ายมโนกรรมซึ่งเป็น กรรมที่สำคัญและมีผลที่ร้ายแรงที่สุดยิ่งกว่ากายกรรมและวจีกรรม เพราะเป้นตัวบันดาล กายกรรมและวจีกรรมอยู่เบื้องหลังอีกชั้นหนึ่ง สามารถนำชีวิตและสังคม หรือมนุษย์ชาติ ทั้งหมด ไปสู่ความเจริญงอกงาม ความหลุดพ้น หรือนำไปสู่ความเสี่อม ความพินาศก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากความเห็นนั้นเป็นมิจฉาทิฎฐิ ย่อมมีผลร้ายต่อตนเองและผู้อื่นทั้งในชาตินี้และชาติหน้า
Download : 254403.pdf