หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระอธิการวงศ์แก้ว วราโภ (เกษร)
 
เข้าชม : ๒๐๐๑๕ ครั้ง
การปฏิบัติกรรมฐานเพื่อแก้ปัญหาความเครียดของคนในสังคมไทย
ชื่อผู้วิจัย : พระอธิการวงศ์แก้ว วราโภ (เกษร) ข้อมูลวันที่ : ๑๓/๐๓/๒๐๑๗
ปริญญา : พุทธศาสตรดุษฎีบัญฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  ประยูร แสงใส
  -
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๒๕๕๘
 
บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

             สารนิพนธ์เรื่องนี้เป็นงานวิจัยเชิงเอกสารโดยมีการศึกษาภาคสนาม  สัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมาย นำมาอภิปรายผลประกอบสารนิพนธ์  มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหลักกรรมฐานในพระพุทธศาสนาเถรวาท  และเพื่อวิเคราะห์การปฏิบัติตามหลักกรรมฐานสำหรับแก้ปัญหาความเครียดของคนในสังคมไทย

             ผลการศึกษาพบว่า

             หลักกรรมฐานแบ่งเป็น    ประเภท  คือ สมถกรรมฐาน  คือกรรมฐานเป็นอุบายให้สงบ  และวิปัสสนากรรมฐานคือกรรมฐานเป็นอุบายเรืองปัญญาเป็นคำสอนเพื่อพัฒนาจิตยกระดับจิตของปุถุชนธรรมดาให้ขึ้นสู่ระดับจิตความเป็นอริยบุคคลซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนาวิปัสสนากรรมฐานเป็นหลักปฏิบัติในด้านปัญญาเพื่อให้ผู้ปฏิบัติได้พิจารณาด้วยปัญญาอันหยั่งถึงในรูปและนามตามสภาวะความเป็นจริงการเจริญวิปัสสนานั้นจุดมุ่งหมายเพื่อให้จิตได้เห็นแจ้งเป็นพิเศษในรูปนามและในขันธ์๕ว่าเป็นอนิจจังไม่เที่ยงทุกขังเป็นทุกข์อนัตตาไม่ใช่เป็นตัวบุคคลตัวตนเราเขาคือเราไม่สามารถที่จะบังคับบัญชามันได้ตามที่คนทั่วไปเข้าใจกันความเห็นแจ้งเป็นพิเศษนี้เรียกว่าวิปัสสนาคือปัญญาเจตสิกที่ปรากฏในมหากุศลญาณสัมปยุตตจิต

          การปฏิบัติกรรมฐานส่งผลทำให้จิตใจผ่อนคลายความตึงเครียด จิตใจผ่องใส เกิดความสงบ เยือกเย็น ใจเย็นขึ้น ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการเรียน และการทำงานดีขึ้น  เป็นผู้มีจิตเมตตากรุณา และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีสติดี คือระลึกได้ว่าจะทำอะไร ไม่หลงลืม  มีสัมปชัญญะ คือรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่ใจลอย บุคคลผู้เป็นเช่นนี้จะตั้งอยู่ในศีล คือไม่ประพฤติทุจริตทางกายและวาจา  มีจิตตั้งมั่นเป็นอันเดียว ไม่วอกแวกคิดฟุ้งซ่าน  ทำให้เป็นคนที่มีความรอบรู้ในสิ่งอันเป็นประโยชน์ และมิใช่ประโยชน์ สิ่งที่เป็นบุญและเป็นบาป สิ่งที่ควรทำ และไม่ควรทำ  เป็นผู้มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ อ่อนน้อมถ่อมตน     ดังนั้นการคลายเครียดนั้นสามารถใช้วิธีการต่างๆทางพระพุทธศาสนาได้ผลจริง แต่เป็นวิธีทางเลือกหนึ่งของบุคคลในการใช้คลาย การนำไปใช้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของตัวผู้นำไปใช้เองว่ามีความสนใจที่จะปฏิบัติตามแนวทางนี้เพียงใด วิธีการถูกกล่าวถึงมากที่สุด คือ การทำสมาธิ หรือ การปฏิบัติกรรมฐาน การทำสมาธิเป็นวิธีการที่ทำให้จิตมีพลังนิ่ง สงบ ไม่ฟุ้งซ่าน ทำให้เกิดการผ่อนคลาย และยังเป็นที่ยอมรับทางการแพทย์ ได้มีการนำสมาธิมาประยุกต์ใช้บำบัดรักษาคนที่มีความเครียดที่เข้ารับการรักษาทางการแพทย์ด้วย การนำไปใช้ก็ควรเลือกวิธีการให้เหมาะสมกับอุปนิสัย แต่หากเป็นกลุ่มที่มีปัญหาจากความเครียดแล้ว เช่น มีโรคไมเกรน มีความดันสูง หรือเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว จะต้องมีผู้แนะนำหรืออยู่ในความดูแลของแพทย์ และมีข้อจำกัดอยู่บ้างในเรื่องของการทำสมาธิ ซึ่งใช้กับคนที่มีอาการทางจิตไม่ได้ นอกจากกินยาจนอาการดีขึ้นแล้วจึงใช้ได้ แต่สำหรับความเครียดในระดับทั่วไป สามารถเลือกวิธีการทำสมาธิต่างๆมาศึกษาเองได้

 

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕