เข้าชม : ๒๐๐๓๑ ครั้ง |
การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการประยุกต์ใช้หลักสังคหวัตถุ ๔ ในการบริหาร จัดการชุมชนแฟลตตำรวจลือชา ในเขตพญาไท กรุงเทพมหานคร (การพัฒนาสังคม) |
|
ชื่อผู้วิจัย : |
Phramaha Thong You Kosalo (Thoeurn Soththea) |
ข้อมูลวันที่ : ๑๐/๐๓/๒๐๑๘ |
ปริญญา : |
พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(การบริหารจัดการคณะสงฆ์) |
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ : |
|
พระมหาสม กลฺยาโณ |
|
บัว พลรัมย์ |
|
- |
วันสำเร็จการศึกษา : |
๑๖ มีนาคม ๒๕๕๙ |
|
บทคัดย่อ |
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ ๑) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการประยุกต์ใช้หลักสังคหวัตถุ ๔ ในการบริหารจัดการชุมชนแฟลตตำรวจลือชา ในเขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ๒)เพื่อศึกษาระดับการประยุกต์ใช้หลักสังคหวัตถุ ๔ ในการบริหารจัดการชุมชนแฟลตตำรวจลือชา ในเขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ๓) เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะแนวทางการประยุกต์ใช้หลักสังคหวัตถุ ๔ ในการบริหารจัดการชุมชนแฟลตตำรวจลือชา ในเขตพญาไท กรุงเทพมหานคร การศึกษาวิจัยนี้เป็นแบบผสานวิธี ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ ซึ่งเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ชุมชนแฟลตตำรวจลือชา เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร จำนวน ๒๘๗ คน โดยใช้ตารางสำเร็จรูปของทาโร่ ยามาเน่ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือค่าความถี่ค่าร้อยละค่าเฉลี่ยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเพื่อบรรยายข้อมูลคุณลักษณะส่วนบุคคลหรือตัวแปรต้นและใช้สถิติทดสอบสมมุติฐานโดยการทดสอบค่าที (t-test ) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) และเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่โดยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference : LSD) และการวิจัยเชิงคุณภาพ กำหนดผู้ให้ข้อมูลหลัก (Key Informants) ๙ คน จากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการในชุมชนเครื่องมือเก็บข้อมูลได้จากแบบสัมภาษณ์เชิงลึกที่มีโครงสร้าง เก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกตัวต่อตัววิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการพรรณนาความ
ผลการวิจัยพบว่า
๑) ปัจจัยที่มีผลต่อการประยุกต์ใช้หลักสังคหวัตถุ ๔ ในการบริหารจัดการชุมชนแฟลตตำรวจลือชา ในเขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ได้แก่ ปัจจัยส่วนบุคคล ซึ่งผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จำนวน ๑๕๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๔.๗ มีอายุ ๒๖-๓๕ ปี จำนวน ๑๑๙ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๑.๕ มีการศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน ๙๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๔.๑ มีอาชีพ รับราชการ/รัฐวิสาหกิจ จำนวน ๙๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๓.๘ มีรายได้รวมต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ บาทขึ้นไป จำนวน ๙๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๒.๔
๒) เปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนต่อการประยุกต์ใช้หลักสังคหวัตถุ ๔ ในการบริหารจัดการชุมชนแฟลตตำรวจลือชา ในเขตพญาไท กรุงเทพมหานคร จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลได้แก่เพศอายุระดับการศึกษาอาชีพและรายได้ พบว่าประชาชนที่มีเพศต่างกันมีความคิดเห็นต่อการประยุกต์หลักสังคหวัตถุ ๔ ในการบริหารจัดการชุมชน ตามหลักสังคหวัตถุ ๔ ของชุมชนแฟลตตำรวจลือชา ในเขตพญาไท กรุงเทพมหานคร โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้ส่วนประชาชนที่มีอายุ ระดับการศึกษา อาชีพและรายได้ ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการประยุกต์หลักสังคหวัตถุ ๔ ในการบริหารจัดการชุมชน ตามหลักสังคหวัตถุ ๔ ของชุมชนแฟลตตำรวจลือชา ในเขตพญาไท กรุงเทพมหานคร โดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕
๓) ปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะในการบริหารจัดการชุมชนตามหลักสังคหวัตถุ ๔ ของชุมชนแฟลตตำรวจลือชา ในเขตพญาไท กรุงเทพมหานคร พบว่า ควรทำงานโดยการนำหลักธรรมในพระพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้ในด้านต่าง ๆ คือ ควรมีการอบรมด้านคุณธรรมโดยนำหลักธรรมเข้ามาประยุกต์ใช้โดยเฉพาะหลักสังคหวัตถุ ๔ อันได้แก่ ทาน ปิยวาจา อัตถจริยาและสมานัตตตา คือ โอบอ้อมอารี วจีไพเราะ สงเคราะห์ประชาชน และวางตัวเหมาะสม มาใช้ในการบริหารจัดการและพัฒนาชุมชน และเจ้าหน้าที่ ควรมีความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการ รวมทั้งเน้นการบริการที่สามารถนำมาซึ่งความพึงพอใจแก่ผู้รับการบริการและส่งผลย้อนกลับไปยังผู้ให้บริการ โดยทำให้ประชาชนผู้รับบริการรู้สึกว่าประทับใจในการให้บริการสมกับคำว่า “บริการดุจญาติ พิทักษ์ราษฎร์ดุจครอบครัว” ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำงานเพื่อส่วนรวม ซื่อตรงต่อตนเอง ต่องานต่อบุคคลอื่น บริหารจัดการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัยในตนเอง รักษากฎระเบียบที่ตั้งไว้ เคารพความคิดเห็นของกันและกัน เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าร่วมประชุมเพื่อเสนอปัญหา และความต้องการในชุมชน แสดงความคิดเห็น วิจารณ์การทำงาน และร้องทุกข์เรื่องราวต่างๆ ได้เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขพัฒนาตนเอง และชุมชนต่อไป
ดาวน์โหลด
|
|
|